วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

รายงาน เรื่องวิพากษ์วิจารณ์สื่อ

การวิพากษ์วิจารณ์สื่อ



จัดทำโดย

นางสาวจันทร์จิรา จูงพันธ์ รหัสนักศึกษา 553410080205
สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์



เสนอ

อาจารย์กีรติ ทองเนตร


รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา สื่อสังคมออนไลน์
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558







คำนำ
              รายงานฉบับนี้ เป็นส่วนของการเรียนในรายวิชา สื่อสังคมออนไลน์  ประจำภาคเรียนที่ 1/2558 รายงานฉบับนี้ประกอบไปด้วยเนื้อหา เรื่อง โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมความงามภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาและการแสดงออกทางเพศ  โฆษณาผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก การ์ตูนที่มีเนื้อหารุนแรง  ภาพหลุด  การใช้สื่อเพื่อด่าทอ  ภาพความรุนแรงของเด็กและเยาวชน ศิลปิน/ดาราต่างประเทศ  การน่าเสนอข่าวสารการเมือง  การน่าเสนอข่าวในลักษณะความเชื่อปาฏิหาริย์ ซึ่งให้ผู้จัดทำได้ค้นหาข้อมูลและนำมาวิพากษ์วิจารณ์และนำเสนอผ่าน blogger
          ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งรายงานฉบับนี้มีประโยชน์แก่ผู้ศึกษาไม่มากก็น้อย ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
                                                                                        จันทร์จิรา จูงพันธ์
                                                                                           ผู้จัดทำ
                              



                                        1. โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมความงาม






             การเป็นคนดังใครๆ ก็ต่างพากันสนใจ เมื่อตัวตนเป็นที่รู้จักหลายคนเริ่มตีตลาดออนไลน์ผ่านสื่อของตน สร้างธุรกิจขนาดย่อมบน เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, ยูทูบว์ ฯลฯ ที่เห็นกันเกลื่อนโลกออนไลน์ก็หนีไม่พ้น เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ฯลฯ ชูจุดขายเรื่องความสวย ดึงดูดให้ฐานมิตรรักแฟนคลับให้เข้ามาเลือกจับจองสินค้า งานนี้ได้ของดีราคาสมน้ำสมเนื้อก็ถือเป็นกำไรของผู้บริโภค แต่เท่าที่เห็นส่วนมากป็นผลิตภัณฑ์แหกตา ดีไม่ดีมีสารอันตรายปลอมปนอีก
       
        ทุกวันนี้พ่อแม่พี่น้องคงเห็นดาราหรือคนมีชื่อเสียง ไปรับจ็อบโฆษณาให้พวกเครื่องสำอาง ยาลดความอ้วน ครีมผิวขาว บลาๆ กันเยอะมากๆ ไม่ต้องถึงขั้นเป็นดาราก็ได้ ขอแค่เป็นพริตตี้ หรือ เน็ตไอดอล ก็มีคนใช้ชื่อเสียงของตัวเองมาหากิน ขายสินค้าจำพวกนี้ให้กับแฟนคลับอยู่เนืองๆ ข้อความจากแอดมิน เพจDrama-addict อธิบายปรากฎการณ์ไร้ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคของเซเลบที่หันมาเอาดีทางด้านการขายเครื่องประทินโฉม
      วิพากษ์วิจารณ์ : ในยุคสมัยนี้เป็นยุคของสังคมโซเชี่ยว  (Social Media) ซึ่งในชีวิตประจำวันของคนเราในยุคนี้ต้องพึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆไม่ว่าจะเป็น ข่าวสาร  การติดต่อสื่อสาร การซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการอัพเดตชีวิตประจำวันของตนเอง การถ่ายรูป วิดีโอ เช็คอินในสถานที่ต่างๆ สิ่งที่ตามมาก็คือเราได้ทราบข่าวสารรวดเร็วแค่ปลายนิ้วสัมผัส ทำให้อะไรๆก็ง่ายไปหมด จึงได้มีเกิดอาชีพๆหนึ่งขึ้นมาคือการขายของออนไลน์ ซึ่งเป็นการค้าขายที่สะดวก รวดเร็วไม่ต้องไปเดินตลาดเพื่อเลือกซื้อของเหมือนอดีต แค่สั่งโอนเงินให้ ก็รอรับสินค้าได้แล้ว และเมื่อเกิดการขายของออนไลน์เกิดขึ้น ก็ทำให้เกิดสินค้าใหม่ๆ ขึ้นมามากมายเหมือนกัน แต่ละแบรนก็จะงัดเทคนิควิธีการโปรโมท โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมความงามของตนเอง เพื่อดึงดูความสนใจแก่ผู้ซื้อ หนึ่งในวิธีการนั้นก็คือการจ้างคนสวยๆ หล่อๆมาเป็นพรีเซนเตอร์ เน็ตไอดอล ดาราบ้างละ แค่ถือครีมถ่ายรูปด้วยกล้องฟรุ้งฟริ้งคนก็แห่กันไปซื้อหมดแล้วไม่ไตร่ตรองเลยว่าครีม ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีส่วนประกอบ อะไรบ้าง  มีอย.ไหม ใช้แล้วอันตรายรึป่าว เพียงเห็นแค่โฆษณาภายนอก บางยี่ห้อก็แต่งรูปมารีวิวเกินจริง  แต่สินค้าเหล่านั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บางยี่ห้อมีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เคยได้ยินว่าครีมที่หลายๆยี่ห้อในปัจจุบัน คนขายจะซื้อครีมที่ขายเป็นกิโลมาจากแม่ค้าขายส่ง แล้วแค่ใส่ส่วนผสมเล็กๆน้อยๆ เช่น คอลาเจน ขมิ้น สาหร่าย กลูต้า ฯลฯ มาสร้างยี่ห้อตัวเอง แพ็กใส่กระปุกเอง  ไม่มีหน้าร้าน ไม่มีโรงงาน จ้างคนหน้าตาดีมาถือสินค้าแล้วโปรโมทสรพคุณเวอ่ร์ๆ แค่นี้ก็ได้ขายแล้วคนก็แห่ซื้อแล้ว
      ประเด็นที่สนใจ : คนที่มารีวิวสินค้าเหล่านั้นใช้สินค้าตัวนั้นจริงหรือไม่ หรือแค่มาถ่ายรูปเฉยๆ เพื่อให้สินค้าดูน่าเชื่อถือ
       



2. ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาและการแสดงออกทางเพศ


         ภาพยนตร์เรื่อง แม่เบี้ย จากบทประพันธ์อันทรงคุณค่าของนักเขียนรางวัลซีไรต์ วาณิช จรุงกิจอนันต์ สู่การตีความใหม่และถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์วิจิตรกามาเหมาะกับยุคสมัยในเวอร์ชั่น 2558 โดยผู้กำกับชั้นครู หม่อมน้อย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ที่จะพาผู้ชมดิ่งลึกไปกับเรื่องราวความรักเร้นลับและตัณหาราคะดำมืดอันเกินหยั่งถึงของ "เมขลา" (อ้อม กานต์พิสชา เกตุมณี) สาวสวยล้ำสมัยสุดเซ็กซี่ผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง และใช้ชีวิตอิสระทุกด้านอย่างถึงที่สุด และ "ชนะชล" (ชาคริต แย้มนาม) ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ, ชาติตระกูล และครอบครัวสมบูรณ์แบบ แต่กลับมาลุ่มหลงอย่างถอนตัวไม่ขึ้นในเสน่ห์อันยั่วยวนใจของเมขลา ผู้เป็นเจ้าของ "เรือนไทยโบราณ" ที่ซึ่งชนะชลมีความหลังฝังใจต่อปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย อันเป็นที่มาของความลึกลับน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนเร้นอยู่ในทุกมุมมืดของบ้านหลังนั้น 
      ที่มา : http://movie.kapook.com/view124271.html
      วิพากษ์วิจารณ์ : ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาและการแสดงออกทางเพศปัจจุบันได้รับการยอมรับในสังคมไทยในปัจจุบัน เพราะดูจากการได้เข้าฉายในโรงหนังและการตอบรับจากคนดูที่ดีมาก แสดงให้เห็นว่าในสังคมไทยของเรา เป็นสังคมที่เปิดไม่จำกัดเรื่องการแสดงออกทางเพศ ดูได้จากเนื้อหาหนังที่มีฉากวาบหวิว เช่นหนังเรื่อง แม่เบี้ย ซึ่งได้ฉายเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับการยอมรับเป็นอย่างแผ่หลาย แต่ข้อเสียที่มีในหนังประเภทนี้คือ การเลียนแบบของเด็กในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เวลาดูหนังผู้ปกครองควรให้คำแนะนำด้วย
      ประเด็นที่สนใจ : ทำไมหนังประเภทนี้จึงได้รับความสนใจและยอมรับอย่างแผ่หลาย


3. โฆษณาผลิตภัณฑ์ลดน้่าหนัก


      อย.จับยาลดความอ้วนออนไลน์ล็อตใหญ่ จ.มหาสารคาม วันที่ 16 .. 2558
ข่าว 7 สี - อย.ขยายผลจากพริตตี้กินยาลดความอ้วน ไปจับกุมได้ล็อตใหญ่ ที่จังหวัดมหาสารคาม เป็นอุทธาหรณ์การสั่งซื้อยาจากสังคมออนไลน์
       นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาหรืออย. กล่าวว่า อย.ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือบก.ปคบ.สืบสวนพบว่า ยาที่พริตตี้สาว ที่รอดชีวิตจากกระโดดตึกได้กินยาลดความอ้วน ที่ซื้อผ่านเฟซบุ๊ก มีแหล่งขายที่จังหวัดมหาสารคามตำรวจเข้าจับกุมร้านขายยาลดน้ำหนักได้ 4 ร้าน ในอำเภอเมืองและกันทรวิชัย ยึดของกลาง เป็นยาลดความอ้วนเฟนเตอร์มีน และไดอาซีแปม จำนวน 100,000 เม็ด พร้อมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมมูลค่าของกลางกว่า 5 ล้านบาท
        บก.ปคบ.แจ้งข้อหาขายวัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 และ 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาโดยไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา อาหารปลอม และขายเครื่องสำอางฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษรวมจำคุกสูงสุดไม่เกิน 20 ปี ปรับรวมสูงสุดไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
      อย.เตือนประชาชน อย่าได้หลงเชื่อซื้อยาลดความอ้วน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หากรับประทานเข้าไป เป็นอันตรายถึงชีวิตอย่าง เช่นพริตตี้สาว ที่เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำร้ายคนในครอบครัว และสุดท้ายคิดฆ่าตัวตาย
          ที่มา : http://news.ch7.com/detail/145200/อย.จับยาลดความอ้วนออนไลน์ล็อตใหญ่_จ.มหาสารคาม.html
          วิพากษ์วิจารณ์ : ปัจจุบันการโฆษณาผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ได้มีอย่างแผ่หลาย โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ เช่น เฟสบุ๊ค อินตาแกรม ฯลฯ  ซึ่งจะโฆษณา เกินความจริง กินแล้วลดภายใน 3 วัน 7 วันเป็นต้น แล้วก็มีการซื้อขายกันจริงๆ บางยี่ห้อก็ใช้แล้วเห็นผล บางยี่ห้อก็มีสารที่เป็นอันตราย ไม่มี อย. ไม่มีคุณภาพ เหมือนในเนื้อข่าวทำให้เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค เช่น ประสาทหลอนบ้างหละ เพ้อ มึน งง เพราะยาลดน้ำหนักมีสารกดประสาท เป็นอันตรายเป็นอย่างมาก ซึ่งบางคนก็รู้แต่ก็ยังกิน บางคนก็ไม่รู้
         ประเด็นที่สนใจ : อยากให้รัฐบาลเข้มงวดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักมากกว่านี้ จับสินค้าที่ไม่มี อย. เพราะ เป็นอันตรายจริงๆ




4. การ์ตูนที่มีเนื้อหารุนแรง



   “การสัมภาษณ์เด็กอายุ 6-12 ปี รายการที่เด็กชอบดูมากที่สุดคือ การ์ตูน ทั้งเด็กผู้ชายและผู้หญิง ส่วนใหญ่ยอมรับว่าเคยเลียนแบบทีวี เช่น เลียนแบบการแปลงร่างแล้วมีการกระโดดถีบ แม้รู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดีและไม่ควรเอาอย่าง แต่ยังมองว่า การ์ตูนไม่รุนแรงเพราะไม่เป็นเรื่องจริง ขณะที่รายการละครหลังข่าวรุนแรงสุด เพราะมีการ ต่อย เตะ แทง ดึงผม ตบตี ข่วนหน้า ซึ่งสิ่งที่เด็กๆไม่อยากเห็นในรายการโทรทัศน์ คือ ภาพโป๊ คนตบตีกัน ฆาตกรรม การฆ่าแล้วเห็นชิ้นส่วนร่างกาย ตัดอวัยวะ ทุบตี ลวนลามทางเพศ และหนังรัก ยิ่งปิดเทอมยิ่งน่าห่วง เพราะมีกานำละครหลังข่าวมารีรันฉายซ้ำตอนกลางวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นละครที่มีความรุนแรงผศ.ลักษมี กล่าว
         ที่มา:  http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000028589
       วิพากษ์วิจารณ์ : เด็กสมัยนี้ชอบดูการ์ตูนที่มีเนื้อหารุนแรง เช่น การฆ่า ปล้น ต่อย แทง กรี๊ด ร้องแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จากนั้นก็จะเรียนแบบพฤติกรรมของการ์ตูน ทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคาราวะ เพราะการดูการ์ตูน แล้วคิดว่าสิ่งที่การ์ตูนแสดงนั้นถูกต้อง รวมไปถึงการ์ตูนโป๊ด้วยที่ปัจจุบันมีอย่างแผ่หลาย และสามารถดูได้ง่าย เข้าถึงได้ง่าย และเด็กสมัยนี้ก็มีเทคโนโลยีที่  support  ทุกคนด้วยดูได้จากเด็กตัวเล็กๆ ประมาณ 6 – 7 ขวบก็เล่นมือถือ สมาร์ท โฟน แท็บเล็ตเป็นแล้ว
        ประเด็นที่สนใจ : ผู้ปกครองมีมาตรการใดในการที่ให้เด็กเลือกบริโภคสื่อการ์ตูนอย่างถูกต้อง และมีประโยชน์สูงสุด
 

      

5. ภาพหลุด

           ตำรวจทางหลวงโคราชตั้งวงเล่นไฮโ­ลและเล่นไพ่กันอย่างสนุกสนาน ในตู้ตำรวจทางหลวงปักธงชัย ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ …ประชาชนที่มาติดต่อหรือเสียค่าปรับมักเ­ห็นเป็นประจำ (รึว่าเปิดเป็นบ่อน) ไม่อายกันบ้างรึงัย หรือว่าเป็นตำรวจแล้วอยู่เหนือกฎหมายได้ครับท่าน ผบ.ตร. กรุณาตอบหน่อยสิครับหลุดคลิป ตร.ทางหลวงโคราช ตั้งวงเล่นไฮโล  ซึ่งเป็นคลิปที่ชัดมากสำหรับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้รักษากฎหมายหรือว่าตำรวจนั้นเองมีหน้าที่จัดการทำสิ่งที่ไม่ดีในสังคมแต่ดูคลิปนี้ชัดเจนเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ถ้าตำรวจเป็นแบบนี้แล้วประชาชนจะอยู่กันอย่างไร
          ที่มา : http://news.tlcthai.com/news-clips/263080.html
          วิพากษ์วิจารณ์ : เรามักจะเห็นภาพหลุดบ่อยๆในปัจจุบัน เหตุที่มีภาพหลุดเพราะ สังคมสมัยนี้การติดต่อสื่อสาร การเสนอข่าว ทำได้อย่างรวดเร็ว  แค่หยิบมือถือมาถ่ายรูป ถ่ายคลิป คนก็รู้หมดแล้ว โดยเฉพาะภาพหลุดจากบุคคลสาธารณะ เช่น ดารา นักร้อง ตำรวจ ครู หมอ ฯลฯ ยิ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ฉะนั้นเราจะทำอะไรควรคำนึงผลที่ตามมา เพราะไม่มีใครปรารถนาดีกับเราซะทุกคน ย่อมมีคนจ้องจะทำลายเราอยู่แล้ว ทำอะไรควรระวังตัวและไม่ทำในสิ่งที่ผิด เพราะสื่อนั่นแหละจะทำร้ายเรา

        ประเด็นที่สนใจ : ทำไมในปัจจุบันจึงมีภาพหลุดกันอย่างมากมาย เป็นเพราะคนสมัยนี้ทำไม่ดีมากหรอ รึเป็นเพราะสื่อที่ไปเร็วไม่เหมือนในอดีต

6. การใช้สื่อเพื่อด่าทอ

       เป็นประเด็กในโลก Social อีกแล้ว สำหรับสมาชิก Facebook รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า "เกด น้ะเนี๊ย'ย."
 ประเด็นคือ  น้องเค้าไม่พอใจที่ขอให้แม่ซื้อรถ KSR ราคา 70,000 บาทให้ แต่เหตุผลคือแม่ยังไม่มีเงิน เลยจะออกฟีโน่ให้แทน ด้วยความที่โมโห อยากได้แต่ไม่ได้ เลยมาระบายหน้าFB ตัวเองซะเลย แต่ที่น่าตกใจคือมีคนมากดLike เกือบ 50 คน 

         วิพากษ์วิจารณ์ : ดูจากข่าวนี้ พบว่าเด็กสมัยนี้มีนิสัยก้าวร้าว และใช้สื่อในทางที่ผิด ใช้เฟสบุ๊คในการด่าแม่ตัวองซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และดูไม่ดี ในสายตาคนอื่น เมื่อได้ดู  
        ประเด็นที่สนใจ : ทำไมคนในสมัยนี้ถึงใช้สื่อในทางผิดๆ เช่นการด่าทอคนอื่น การถ่ายรูปแชร์คลิปที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น

7. ภาพความรุนแรงของเด็กและเยาวชน
ช่างกลยกพวกตีกันกลางคอนเสิร์ต | เดลินิวส์



           เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว เดลินิวส์ออนไลน์รายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (14 ธ.ค.) เกิดเหตุนักเรียนอาชีวะยกพวกตีกันกลางงานคอนเสิร์ตเพื่อการกุศล ?คิดแล้ว ต้องทำ? ขณะที่นักร้อง ปู-พงศ์สิทธิ์ คัมภีร์ กำลังขึ้นร้องเพลง บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายขจรศักดิ์ เขาวง อายุ 21 ปี ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณด้านหลังซ้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.ชลประทาน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี จำนวน 2 กองร้อยเข้าระงับเหตุ พร้อมทหารอีกจำนวนหนึ่ง โดยขณะเกิดเหตุกลุ่มนักเรียน-นักเลงไม่ได้เกรงกลัวเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด วิ่งไล่ตีกันต่อหน้าต่อตาเหมือนกับไม่มีตำรวจ-ทหารอยู่บริเวณดังกล่าว ทั้งนี้เหตุการณ์สร้างความเอือมระอาให้กับคนที่่เข้าไปชมคอนเสิร์ตอย่างมาก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ เบื้องต้นจับกุมนักเรียนอาชีวะที่ก่อเหตุได้กว่า 80 คน สอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 ได้ 1 กระบอก ระเบิดปิงปองอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในป่าหญ้าใกล้กับที่เกิดเหตุ จากการตรวจค้นภายในตัวผู้ก่อเหตุยังพบมีดดาบยาว 9 เล่ม จึงควบคุมตัวนักเรียนทั้งหมดส่งทำประวัติพร้อมตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด โดยนักเรียนที่พกพาอาวุธเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนนักเรียนที่ไม่มีอาวุธอนุญาตให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน
        ที่มา : http://www.dailynews.co.th/regional/287542
        วิพากษ์วิจารณ์ : หลายความคิดบางคนอาจมองว่าเป็นวัยสดใส วัยริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ เป็นวัยที่มีพลัง มีความคิดเป็นของตัวเองสูง และก็เป็นวัยที่ รุนแรงก้าวร้าว คำนี้ มักมีอยู่ในช่วงวัยรุ่นเสมอ เนื่องจากวัยรุ่นเป็นวัยที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พยายามที่จะค้นหาความเข้าใจในตน  ความคึกคะนอง บางคนก็ค้นพบตนเองในทางที่ถูกต้อง  แต่บางคนกลับหันเหไปในทางที่ผิด ทำให้เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่เราเห็นในปัจจุบัน

        ประเด็นที่สนใจ : ทำไมเด็กจึงก้าวร้าว เพราะการเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อม หรือนิสัยการอยากรู้อยากลองของเยาวชนเอง

8. ศิลปิน/ดาราต่างประเทศ



จวกยับ! เลดี้ กาก้า สวมชฎาในคอนเสิร์ต lady gaga live in Bangkok
เรียกได้ว่าคุ้มค่าแห่งการรอคอยจริง ๆ สำหรับคอนเสิร์ตของศิลปินป๊อบสตาร์สุดเพี้ยนอย่างเลดี้ กาก้า” ที่ได้ปิดฉากลงอย่างสวยงามไปเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (25 พฤษภาคม) ทั้งนี้บรรดาลิตเติ้ลมอนสเตอร์ทั้งหลาย ก็แต่งตัวจัดเต็มมาประชันกันอย่างสนุกสนานส่วนคอนเสิร์ตของเลดี้ กาก้า นั้น จัดได้อย่างอลังการงานสร้าง แถมยังมันส์สนุกสุดเหวี่ยง สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ของเลดี้ กาก้า เป็นอย่างมาก แต่ทว่า.. ก็ยังมีประเด็นให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโพสต์ภาพของ เลดี้ กาก้า ขณะสวมชฎาเล่นคอนเสิร์ต ในชุดที่ค่อนข้างวาบหวิว พร้อมระบุว่า เลดี้ กาก้า ไม่รู้จักกาลเทศะ และทำตัวไม่เหมาะสมอย่างไรก็ตาม เมื่อภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป บรรดาลิตเติ้ลมอนสเตอร์ที่ได้ชมคอนเสิร์ต ก็ออกมาชี้แจงว่า ความจริงแล้วชฎาที่เลดี้ กาก้า สวมไม่ใช่ของเธอ แต่เป็นของแฟนคลับคนหนึ่งที่สวมมาดูคอนเสิร์ต ซึ่งเลดี้ กาก้า ได้กล่าวชื่นชมถึงประเทศไทยว่ามีความสวยงาม และจังหวะนั้นเธอก็หันไปเห็นชฎาบนศีรษะของแฟนคลับคนดังกล่าว จึงออกปากขอยืมใส่ และหยิบไปใส่อย่างระมัดระวัง พร้อมกับร้องเพลงต่อ จากนั้นเธอก็ได้ยกมือไหว้แฟน ๆ ตามเอกลักษณ์ไทย
นอกจากนี้ เลดี้ กาก้า ยังได้กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือในคอนเสิร์ตว่า ในขณะที่ประเทศอื่นประท้วงคอนเสิร์ตของเธอ แต่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่โอบกอดเธอไว้ และเธอก็ได้กล่าวขอบคุณแฟน ๆ กว่า 5 หมื่นคน ที่มาชมคอนเสิร์ตของเธอ
        ที่มา : http://www.bangkokvoice.com/2012/05/26/จวกยับ-เลดี้-กาก้า-สวมชฎ/
      วิพากษ์วิจารณ์ : ศิลปินดาราต่างประเทศ ยังคงไม่เข้าใจวัฒนธรรม ประเพณีของไทย เช่นเลดี้ กาก้า นำชฎามามาสวมใส่ในคอนเสิร์ต ซึ่งคนไทยบางส่วนก็มองว่าไม่เหมาะสม บางส่วนก็นำมาเปรียบเทียบการที่คนไทยทำพฤติกรรมแบบนี้ทำไมไม่เป็นที่สนใจ อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
       ประเด็นที่สนใจ : ไม่มี


9. การนำเสนอข่าวสารการเมือง

         ปัจจุบันนี้หากคุณเสียเวลาสักนิด คอยเกาะติดข่าวการเมืองสักหน่อย ไม่แน่ความรู้และความเข้าใจจากข่าวในแต่ละวัน คงทำให้คุณได้เข้าใจอะไรมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเมืองไทย ตลอดจนกระทั่งทำให้คุณสามารถเป็นเสียงหนึ่ง ที่สนับสนุนทำให้เมืองไทยดีขึ้นมาได้เช่นเดียวกันข่าวการเมือง
ก็เพราะว่าเนื่องจากความสำคัญของข่าวการเมืองที่ว่านี้ก็คือ การขยับเขยื้อนความเคลื่อนไหว ตลอดจนกระทั่งสังคมไทยกับการปฏิรูปในปัจจุบัน ทุกอย่างจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงให้ดีเพิ่มขึ้น แม้ว่าฝ่ายรัฐบาลจะพยายามเสียขนาดใด แต่สำหรับเมืองไทยแล้ว ไม่ว่าจะเช่นใดความปรองดองก็มีอำนาจเหนือสูงสุด ประชาธิปไตยก็ถูกเทิดทูนให้อยู่เหนือสูงสุด หากคนไทยส่วนใหญ่ปล่อยปะละเลย แม้ว่าในสายตาของใครต่อใครหลากหลายคน กลับมีความคิดและมักจะมองเห็นว่า ข่าวการเมือง เป็นข่าวที่น่าเบื่อ พร้อมทั้งสามารถทำให้เกิดอาการเคร่งเครียดได้เสมอเมื่อมีการติดตามข่าว แต่หากว่าคนไทยไม่ช่วยการไล่ตามข้อมูล หรือการนำเสนอข้อมูลผ่านข้อมูลข่าวสารทางด้านการเมือง แล้วชาวไทยจะสามารถรับรู้เรื่องต่าง ๆ ได้ยังไง ถึงแม้ว่าในแง่มุมของความเป็นจริงแล้วนั้น ข่าวการเมืองจะเป็นเรื่องที่น่าทุกข์ใจ และมิใช่เรื่องที่ประชาชนจำนวนมากจะต้องเข้าถึงมากนัก แต่ถ้าว่าอย่างน้อย ข่าวการเมืองก็เป็นข่าวภายในประเทศอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ได้เกาะติดข่าวสารทางด้านการเมือง เพราะว่าข่าวการเมืองคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ทำให้เกิดอาการเครียดจนไม่ต้องการจะติดตาม
       หากเป็นแบบนี้ ก็จะทำให้เกิดคำถาม คือ แล้วใครจะเกาะติดแทน หากว่าปล่อยให้รัฐบาลต้องทำหน้าที่เพียงฝ่ายเดียว โดยไร้การร่วมแรงจากประชาชนส่วนใหญ่แล้ว ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ยาก และดีได้ยากเช่นเดียวกัน
        วิพากษ์วิจารณ์ : การนำเสนอข่าวการเมืองนั้นมีทุกวัน ซึ่งอยู่ที่ว่าเราจะเลือกติดตามข่าวนั้นๆหรือไม่ บางสื่อก็เสนอข่าวไม่เป็นกลาง บิดเบือนไปจากความจริง บางสื่อก็คอยยุยงให้แตกแยก บางสื่อก็คอยผลักดันคนของตัวเอง อยู่ที่คุณแล้วว่าจะเลือกบริโภคสื่อแบบไหน
         ประเด็นที่สนใจ : การนำเสนอข่าวการเมืองเราควรเลือกจะบริโภคสื่อแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับบริบทของเรา

10. การนำเสนอข่าวในลักษณะความเชื่อปาฏิหาริย์


ฮือฮา! จอมปลวกคล้ายพญานาค ชาวบ้านแห่บูชา
       ชาวบ้านฮือฮา จอมปลวกคล้ายพญานาค ผุดขึ้นภายในบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ ใน อ.เมือง จ.นครพนม แห่บูชาแน่น เชื่อพญานาคมาแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็น...
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านแตกตื่นแห่ไปขอโชคลาภ หลังทราบข่าวว่า พบจอมปลวกที่เกิดจากดินธรรมชาติ มีลักษณะผิดแปลกจากธรรมชาติ มีรูปร่างคล้ายพญานาค ซึ่งเชื่อกันว่า พญานาคได้มาแสดงปาฏิหาริย์ให้ชาวบ้านเห็น ภายในบ้านชั้นเดียว ที่กำลังทำการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ เลขที่ 99 หมู่ 19 บ้านน้อยนาคำ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นของ นายเผด็จ สาระวัน อายุ 65 ปี
     จากการสอบถาม นายเผด็จ เจ้าของบ้าน เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าว ตนสร้างไว้ประมาณ 5-6 ปี แล้วให้ลูกสาวที่ไปทำงานต่างจังหวัด จึงมีเพียงโครงสร้างมุงหลังคา ทำให้มีป่าขึ้นรกในช่วงหน้าฝน แต่ก่อนที่จะพบจอมปลวกคล้ายพญานาคนี้ ได้มีเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ เห็นลำแสงสีเขียวสว่างขึ้นในบริเวณดังกล่าวช่วงกลางคืน จึงเกิดความแปลกใจ รุ่งเช้าจึงพากันเข้าไปถางหญ้าดูภายในบ้าน พบว่ามีจอมปลวกที่เกิดจากดินตามธรรมชาติ บริเวณคานปูนในบ้าน แต่มีรูปร่างแปลกผิดธรรมชาติแบบไม่เคยเห็นมาก่อน โดยมีฐานกว้างประมาณ 1 เมตร และมีลักษณะเป็นทรงคล้ายเจดีย์ แต่มียอดแหลมขึ้นมาเป็นรูปร่างคล้ายหัวพญานาคอย่างน่าเหลือเชื่อทั้งนี้ พอชาวบ้านพบเห็นก็แตกตื่น พากันนำเครื่องเซ่นมากราบไหว้บูชา และขอโชคลาภตามความเชื่อ เพราะเชื่อกันว่าพญานาคได้มาแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็น อีกทั้งยังพบว่ายอดจอมปลวกที่มีรูปร่างคล้ายหัวพญานาคนั้น ได้ยาวขึ้นต่อเนื่องตามธรรมชาติ จนปัจจุบันมีความยาวจากฐานประมาณ 1.60 เมตร ยิ่งในช่วงใกล้วันหวยออก จะมีคนแห่มาดูไม่ขาดสาย และมีชาวบ้านส่วนหนึ่งถ่ายภาพไว้ แล้วอัดภาพมาให้ชาวบ้านบูชาทำบุญตามกำลังศรัทธา ตั้งใจจะนำเงินที่ได้ไปถวายวัดเพื่อก่อสร้างศาลาให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ ชาวบ้านยังเชื่ออีกว่าจอมปลวกนี้ เป็นจอมปลวกที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะที่ผ่านมา เคยมีบางคนลบหลู่ก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นหลายครั้ง จึงทำให้ตอนนี้ชาวบ้านไม่กล้าลบหลู่อีก.


        ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/360632
        วิพากษ์วิจารณ์ : จากข่าวเป็นการนำเสนอข่าวในลักษณะความเชื่อปาฏิหาริย์ ซึ่งเวลาเห็นอะไรที่ผิดธรรมชาติ เช่นจอมปลวก เป็นรูปพญานาค ดังในข่าว ชาวบ้านก็จะไปกราบไหว้บูชา ขอหวย  บนบาน สานกล่าว เพราะเป็นความเชื่อของบุคคล แต่สื่อก็จะนำไปเสนอ แล้วใช้คำที่ดึงดูดความสนใจ เช่น ฮือฮา สุดตะลึง ผวา ทำให้คนบริโภคข่าวเกิดความสนใจ และเข้าไปอ่าน รวมถึงบางคนที่มีความเชื่อก็เดินทางไปดูด้วยตาของตนเอง ซึ่งข่าวในลักษณะนี้ ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้บริโภคสื่อว่าจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ
         ประเด็นที่สนใจ : เมื่อมีข่าวในลักษณะนี้เกิดขึ้นมา คนก็จะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายข่าวพวกนี้ก็หายไป เพราะมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น